ภาพตัวอย่างกางเกงในรุ่น PP สีฟ้าแบบป้ายด้านข้าง
คงต้องเริ่มเรื่องจากตัวเองที่ตั้งแต่เริ่มป่วยด้วยอุบัติเหตุ จนเป็นผู้ทุพพลภาพ ก็ไม่ได้สัมผัสกับกางเกงในอีกเลย เพราะแรกๆ อาจจะนึกไม่ออกด้วยซ้ำ ว่าจะต้องใช้มันด้วยเหตุผลใด เพราะมีสายสวนคาอยู่ ไม่รู้จะใส่ยังไง ดูว่าจะเกะกะและลำบากด้วยซ้ำไปที่ต้องใช้มัน มันคงสร้างภาระมากมายให้กับคนที่จะมาดูแลเรา ทั้งตอนที่จะต้องใส่เข้าไป หรือแม้แต่ตอนที่จะถอดออก แค่กางเกงธรรมดา ตัวใหญ่ๆ ที่ต้องใส่ก็ยุ่งพอแล้ว
ดังนั้นสรุปเลยครับว่า น่าจะเกือบส่วนใหญ่ที่ผู้พิการรุนแรงกลุ่มนี้ จะตัดสินใจไม่ใช้กางเกงในโดยเด็ดขาด แล้วผู้อ่านรู้ไหมครับ ผมเคยพูดคุยกับพี่ท่านหนึ่ง ที่เป็นผู้พิการรุนแรงมาแล้ว 31 ปี ในปัจจุบันก็ยังไม่เคยใช้เลย ผมพยายามคุยเรื่องนี้กับหลายคนที่เป็นเหมือนผมหรือมากกว่าผม ณ วันนี้ผมยังคงได้คำตอบเดิม ดังนั้นผมจึงตัดสินใจเขียนบทความนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับผู้ป่วย และผู้ทุพพลภาพท่านอื่นๆ ต่อไป ในอนาคต
ถ้าผมไม่ได้ออกจากบ้านบ่อยๆ ผมก็คงคิดเหมือนกับทุกๆ คน แต่ผู้อ่านและเพื่อนๆ รู้ไหมครับว่า ผู้ทุพพลภาพ จริงๆ แล้วก็ไม่ได้แตกต่างกับคนปกติเลย ผมคงขอพูดในฐานะผู้ทุพพลภาพชายละกันนะครับ ผมว่าคุณผู้ชายทุกคนคงรู้สึกได้แน่นอน ว่าถ้าคุณออกจากบ้านแล้วใส่กางเกงขายาว โดยไม่ใส่กางเกงในมันเป็นยังไง แต่ส่วนตัวผมว่าก็ช่างมันเถอะ เพราะผมคงไม่รู้สึกแบบนั้นแล้ว
ผมจึงอยากข้อนำเสนอ "สิ่งผิดปกติ หรือข้อเสีย พร้อมเหตุผลดีๆ ของกางเกงใน" ครับ
1. แน่นอนครับ เมื่ออกข้างนอกจะระแวงเวลาผมนั่ง คือมันเป็นความรู้สึกส่วนตัวครับ เช่น ถ้าอวัยวะมันแข็งตัว (แบบมั่วๆ ไม่รู้เวลา เพราะเราควบคุมมันไม่ได้) มันจะน่าเกลียด อุจาดตาไหม หรือ มันจะอยู่อย่างไร (คือถึงไม่รู้สึกก็ยังเป็นห่วงมันอยู่เหมือนกันครับ เพราะอยู่กันมาตั้งแต่เกิด)
2. บางครั้งผมจะรู้สึกหงุดหงิด กระสับกระส่าย แบบไม่รู้สาเหตุขึ้นมาซะเฉยๆ เลยครับ บ้างครั้งก็เหงื่อแตกชุ่มเป็นน้ำอย่างน่าฉงน พอพิสูจน์หลักฐานดู ส่วนใหญ่จะเกิดจากเรื่องบริเวณก้นและอวัยวะเพศเป็นส่วนใหญ่ครับ ไม่ว่ากางเกงไม่อยู่ในลักษณะเรียบร้อยบ้างทำให้ไปพันสายสวน หรือม้วนเอาอวัยวะพัวพันกันไปมา บางทีก็กางเกงไปรั้งก้น รั้งอวัยวะ บางทีก็ก้นหรือใต้ต้นขาไปทับลูกอัณฑะบ้าง สรุปโดยรวมคือ ต้องคอยเช็คช่วงล่างตลอด ถึงจะดีที่สุด ดังนั้นถ้าได้ใส่กางเกงในแล้วก็น่าจะช่วยได้มากๆ ครับ
3. สำคัญมากๆ เลยครับ ผมว่ามันจะช่วยเรื่องป้องกันทำให้สายสวนลดโอกาสในการอุดตันได้มากขึ้น เพราะเนื่องจากถ้าได้ใส่กางเกงในแล้ว ก็จะสามารถจัดระเบียบของอวัยวะ และแนวทางการวางสายสวนได้ ก็จะทำให้ลดการหักงอของสายสวนได้ รวมถึงถ้าเกิดปัญหาสายสวนอุดตันก็สามารถล้วงและบีบสายสวนได้อย่างเป็นระเบียบ
4. ผมคิดว่าสามารถแก้ปัญหาเรื่องการติดเชื้อได้อีกระดับหนึ่ง เพราะว่า มีกางเกงในป้องกันไว้อีกชั้นหนึ่ง
คราวนี้เราลองมาดูกันว่า ไอ้เจ้ากางเกงในรุ่น PP นี้มันใช้งานยังไง ก็ง่ายๆ ครับ ตามหลักการต้องสามารถใส่ได้ทั้งๆ ที่มีสายสวนคาอยู่ (ในลักษณะที่ใส่ตามอวัยวะปกติ ไม่ใช่เจาะที่หน้าท้องนะครับ) ดังนั้นจะเห็นว่า กางเกงในต้องถูกตัดให้ขาด ไม่อย่างนั้นก็ใส่ไม่ได้ และที่สำคัญก็ต้องมีรูด้วยนะครับ เพื่อสามารถใช้ประโยชน์ให้ อวัยวะสามารถโผล่ออกมาได้บ้างครับ
จากรูปจะเห็นว่าด้านขวามีแผ่นยึดติดตัวเนื้อผ้ากางเกง ที่ถูกตัดขาด เพื่อเป็นส่วนที่สายสวนสามารถเข้าไปได้ และปิดแผ่นดังกล่าวได้ เพื่อทำให้กางเกงในสำหรับผู้พิการรุนแรง ใช้งานได้เหมือนกางเกงในปกตินะครับ ส่วนรูที่เห็นนั้นก็ตามที่ผมอธิบายครับ เอาไว้สำหรับบางสถาณการณ์ครับ
และยังสามารถพลิกแพลงให้ไปอยู่ด้านข้างได้อีก และสามารถใช้แผ่นยึดติดที่ทำไว้ ไปล็อคสายสวนได้อีกในบางกรณีนะครับ ดังนั้นจะเห็นว่า "กางเกงในรุ่น PP" นี่สามารถตอบโจทย์การใช้งานของผู้พิการรุนแรงได้อย่างลงตัว ในเร็วๆ นี้ ผมจะนำเสนอรุ่น 2 ที่ผมกำลังจะได้ใช้ในเร็วๆ นี้ครับ เพราะได้มีการพัฒนาต่อให้ใช้งานได้ง่าย และสะดวกขึ้น
test
ReplyDeleteมีคนบอกจะซื้อสีดำให้ใส่
ReplyDeleteแต่บอกเขาไปว่า
รอ ม๊าทำจีติงมาก่อน ค่อยจองนะ
ผมเจาะหน้าท้อง ไม่ได้ใส่ลิงเหมือนกันครับ
ReplyDeleteเขาออกแบบได้ดีมากเลย
จาก แหลม อุบลฯ