25 : กลับบ้านพร้อม "ปริญญาชีวิต" อีกฉบับ

สวัสดีครับทุกคน จริงๆ แล้วที่ผมขึ้นชื่อตอนว่า กลับบ้านพร้อม "ปริญญาชีวิต" อีกฉบับ ก็เพื่อจะสื่อให้เห็นว่า การที่ผมได้รับปริญญา สาขาภาควิชาผู้พิการ major : Disabled Person หรือเอกวิชา : เป็นผู้ทุพพลภาพนั้น มันยังไม่จบสิ้นแค่ความรู้ ความเข้าใจที่ได้รับมาทั้งหมด ขณะอยู่โรงพยาบาล ผมยังจะต้องไขว่คว้า ศึกษาหาความรู้ในแขนงวิชานี้ เพิ่มเติมไปเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดนิ่ง เหมือนกับเรื่องอื่นๆ ที่ต้องเรียนรู้ตลอดเวลา ก็เท่านั้นเองครับ

และที่สื่อความหมาย ด้วยประโยคในลักษณะนี้ก็เพราะ ครู-อาจารย์ ได้พร่ำสอนตลอดเวลาครับ ว่าปริญญาเป็นแค่กระดาษที่ให้รูว่าเป็นแค่ความสำเร็จขั้นต้นเท่านั้น ยังมีความรู้อีกมากมายข้างหน้าที่ต้องเรียนรู้อีกมาก

ขอโทษทีครับ นึกถึง พูดถึงทีไร ก็ได้อารมณ์ประมาณนี้ทุกที ขอตั้งต้นที่จะกลับบ้านเลยดีกว่า

ตามระเบียบครับ เพื่อความสะดวก ผมกลับบ้านด้วยรถพยาบาล โดยมีพี่นางพยาบาลนั่งไปด้วย (กล่าวซ้ำอีกครั้ง เพราะเคยกล่าวแล้วในตอนที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเวลาขนย้ายผู้ป่วย ต้องมีนางพยาบาลไปด้วยทุกครั้ง)

ที่บ้านก็เตรียมการอย่างดี ตามที่ได้ปรึกษากัน คือหาเตียงที่สูงจากพื้นประมาณ 1 ฟุต เพราะคงนอนพื้นไม่ได้ และต้องนอนข้างนอก ไม่นอนในห้อง เพราะกลัวว่าจะร้อน เนื่องจากช่วงเวลาที่ผมกลับบ้านเป็นหน้าร้อนเดือนเมษายนพอดี

พอถึงบ้าน ขนย้ายผมลงเตียง " ร้อนมากๆ เลยครับ " ร้อนจนทนไม่ได้ ต้องแบ่งเงิน 28,000 บาทออกจาก เงินก้อนสุดท้ายที่มีอยู่ 70,000 บาท นี่ยังโชคดีที่ผมเหลือมานะครับ เพราะกว่าจะจบหลักสูตรก็เสียค่าเทอมไปประมาณ 1,300,000 บาทครับ

...........................................................................

ผมขอแทรกความรู้เกี่ยวกับแอร์ สักนิดหน่อยครับ

ผมได้หัดเป็นนักเขียนสมัครเล่น อยู่ที่เว็บไซต์ของคุณวินทร์ เรียววารินทร์ (นักเขียนรางวัลซีไรท์ 2 สมัย)โดยมีนามแฝงว่า "ปรยา" ผมเขียนไว้ 2 หัวเรื่อง คือ "ปรยาสตอรี่" ซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวทั่วไป ที่ไม่เกี่ยวข้องกับอาการเจ็บป่วย และ "ฟิสิกส์ 360 องศา" ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ใกล้ตัว หรือชีวิตประจำวัน ซึ่งผมเคยกล่าวถึงเรื่องแอร์ด้วย สามารถอ่านรายละเอียดได้จากลิงค์นี้ครับ

http://www.winbookclub.com/viewanswer.php?qid=4926

แอร์ตัวแรกของผม และยังเป็นตัวปัจจุบันที่ใช้อยู่ อึดมาก เปิดวันละ 21-23 ชั่วโมงโดยเฉลี่ย จะปิดเฉพาะตอนที่เช็ดตัว และถ่ายเท่านั้น แต่บางวันก็ไม่ปิด เพราะร้อน ไม่เคยซ่อมเลย หรือเปลี่ยนอะไหล่เลย ก็เป็นเพราะผมให้ความสำคัญของการล้างแอร์ (โดยมีคำอธิบายตามลิงค์ที่ผมให้ครับ) ส่วนยี่ห้อของแอร์ที่ผมซื้อ ผมตั้งใจซื้อเลยนะครับ เพราะเคยเข้าโรงงาน ทำให้รู้ specification ของเขา ขอย้ำครับว่าไม่ได้เชียร์ ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเขา เป็นยี่ห้อ " DAIKIN " ครับ 18,000 บีทียู ถ้ามีโอกาสผมจะขยายความเรื่องแอร์ให้ทราบภายหลังครับ รวมถึงบางเรื่องที่น่าสนใจ และเป็นประโยชน์มาก จากฟิสิกส์ 360 องศา

ขอจบเรื่องแทรกแค่นี้ก่อนครับ

ปรีดา ลิ้มนนทกุล

......................................................................

ช่างแอร์เป็นญาติห่างๆ เขาจึงเข้ามาติดตั้งให้ในวันรุ่งขึ้นช่วงเช้า ต่อด้วยเตียงคนไข้แบบมือหมุน ของสิงหา ราคา 24,000 บาท ในช่วงบ่าย เพราะลงความเห็นกันแล้วว่า ถ้าเตียงที่นอนของผมยังเตี้ยอยู่อย่างนั้น คนที่จะกลายเป็นคนป่วยแทนผม น่าจะเป็นคนที่ดูแลผม เนื่องจากต้องก้มๆ เงยๆ ลุกขึ้น ลุกลง

กลับมาถึงบ้านแค่ 2 วันก็ต้องลงทุนกับการที่จะต้องดำเนินชีวิตต่อไปข้างหน้าอีก 52,000 บาท ทำให้ผมนึกถึงคนป่วยคล้ายๆ ผมอีกหลายๆ คนว่าคงจะลำบากมาก เพราะทุกอย่างดูจะต้องใช้เงินเป็นสำคัญ

แอร์มีความสำคัญกับผมในขณะนั้นมากๆ เพราะแผลที่ก้นของผม ต้องการการฟื้นตัว จึงต้องควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญในการรักษาเช่นกัน

ตอนต่อไป ผมขอกล่าวถึงเธอทั้ง 2 คนบ้างครับ เธอคนไหน ลองติดตามนะครับ


ขอบคุณครับ

ปรีดา ลิ้มนนทกุล
mobile : 086-314-7866
email : preeda.limnontakul@gmail.com
update : April 30, 2007

8 comments:

  1. เมื่อ พ. 02 พฤษภาคม 2550 @ 01:04 [245845] [ลบ]
    อิ อิ เดาหัวเรื่องได้เลยค่ะ เพราะเขียนทิ้งท้ายไว้จากตอนที่แล้ว แอร์ช่วยในเรื่องของเหงื่่อค่ะ และมีผลถ้าเหงื่อมาโดนแผล ซึ่งจะทำให้หายยาก ราณีเห็นด้วยเรื่องติดแอร์ ส่วนยี่ห้อที่คุณบอกนี้เป็นยี่ห้อที่ดีที่สุดขณะนี้ (ร้านแอร์บอกค่ะ) แต่ราคาสูงกว่ายี่ห้ออื่นค่ะ

    ReplyDelete
  2. รอยยิ้มจางๆ วันที่ : 29/07/2007 เวลา : 22.47 น.
    http://www.oknation.net/blog/wana22



    แวะมาสวัสดีอีกครั้งค่ะ
    .... วันนี้ทำบุญมาค่ะ
    ขอให้คุณปรีดามีความสุข
    สุขภาพแข็งแรงค่า

    ReplyDelete
  3. คนว่างงาน วันที่ : 30/07/2007 เวลา : 00.21 น.
    http://www.oknation.net/blog/Cantona



    มาเยี่ยมครับ

    แข็งแรงไวๆนะครับ

    ReplyDelete
  4. MUNYANMAI วันที่ : 30/07/2007 เวลา : 07.34 น.
    http://www.oknation.net/blog/Voyager
    สายลมและแสงแดดทำให้เรารู้ว่า มีความอบอุ่นซ่อนอยู่ในความหนาวเย็น



    แวะมาทักทายครับ มาชวนกันไปทำบุญนะครับ
    วันนี้วันเข้าพรรษาแล้วอย่าลืมทำบุญนะขอรับ

    หลาย ๆ บทความเป็นบทความที่ดีมาก แล้วจะตาม
    มาติดตามอ่านเรื่อย ๆ นะครับ

    ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงและจิตใจที่เบิกบานครับ

    ReplyDelete
  5. ความคิดเห็นที่ 4
    คุณนายมะกอก วันที่ : 31/07/2007 เวลา : 19.41 น.
    http://www.oknation.net/blog/infinity



    แล้วคุณนายจะเข้ามาเยี่ยมบ่อยๆนะคะ แต่ถ้าเป็นสาระมากๆคงไม่ไหว สมองตื้อค่ะ ขออ่านแบบไดอารี่หรือสุขภาพยังพอไหว...

    ReplyDelete
  6. zuni วันที่ : 07/08/2007 เวลา : 11.10 น.
    http://www.oknation.net/blog/zuni



    ค่ะ ชีวิตคือการเรียนรู้ค่ะ

    ReplyDelete
  7. ขอบคุณที่เข้มแข็งและเป็นกำลังใจให้คนอื่น ๆ อยากเจอคุณจังเลย เป็นคนพิการเหมือนกันคะ อยากทำงานด้วยคะ อยากให้คนพิการที่ไม่มีโอกาศรู้ข้อมูลเหล่านี้ได้ทราบจังเขาจะได้มีกำลังใจบ้าง โอกาสแต่ละคนไม่เหมือนกันนะ.....

    ReplyDelete
  8. พอออกจากรพ. ก็ยังมีเรื่องต้องใช้จ่ายอีกเนอะ
    เคยฟังรายการวิทยุ สวพ.91 มักจะมีคนขอรับบริจาคเตียงผู้ป่วย รถเข็น อุปกรณ์กายต่างๆ จากผู้ฟังรายการ ที่ไม่ได้ใช้งานแล้วหรือญาติผู้ใหญ่เสียชีวิตไปแล้ว เพื่อนำมาใช้ต่อ. ซึ่งก็เป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ
    ถือว่าเป็นการทำบุญให้ผู้ล่วงลับไปด้วย

    ReplyDelete

Follow me on Twitter
Visit me on Facebook